เมนู

ว่าด้วยจิตไนปวัตติกาล และปฏิสนธิกาลใน 3 ภพ 19 ดวง


บรรดาจิต 19 ดวง ที่เหลือ จิตอะไร ๆ ย่อมไม่เป็นไปในปฏิสนธิ
ตามสมควรของคน ๆ หามิได้ แต่ในปวัตติกาล มโนวิญญาณธาตุที่เป็นอเหตุกะ
2 ดวง คือ เป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก ในเบื้องต้น ให้สำเร็จกิจ 4 อย่าง
คือ สันติรณกิจ ในลำดับแห่งมโนธาตุที่เป็นกุศลวิบาก หรืออกุศลวิบากใน
ทวารห้า 1 ดวง เป็นตทารัมมณกิจ ในทวาร 6 โดยนัยที่กล่าวไว้ในเบื้องต้น
นั่นแหละ 1 ดวง เป็นภวังคกิจ ในเมื่อพ้นไปจากปฏิสนธิอันตนให้แล้ว
ไม่มีจิตตุปบาทอันเข้าไปตัดเสียซึ่งภวังค์ 1 ดวง และจุติกิจในที่สุด 1 ดวง
มี (หทยะ) วัตถุแน่นอน มีทวาร อารมณ์ ฐานะและกิจไม่แน่นอนเป็นไป
สเหตุกจิตที่เป็นกามาพจร 8 ดวง ย่อมยังกิจ 3 อย่าง ให้สำเร็จ คือ
เป็นตทารัมมณกิจ ในทวารกาล 6 โดยนัยที่กล่าวไว้ในปวัตติกาล 1 ดวง
เป็นภวังคกิจ ในเมื่อพ้นไปจากปฏิสนธิกิจที่ตนให้แล้ว ไม่มีจิตตุปบาทที่เข้า
ไปตัดเสียซึ่งภวังค์ 1 ดวง จุติกิจในกาลเป็นที่สุด 1 ดวง มีวัตถุแน่นอน
มีทวาร อารมณ์ ฐานะและกิจไม่แน่นอนเป็นไป.
รูปาวจรวิบากจิต 5 ดวง และอรูปาวจรวิบากจิต 4 ดวง ย่อมยังกิจ
2 อย่างให้เป็นไป คือ เป็นภวังคกิจ ในเมื่อพ้นไปจากปฏิสนธิกิจอันตนให้
แล้ว ไม่มีจิตตุปบาทที่เข้าไปตัดเสีย ซึ่งภวังค์ 1 ดวง และจุติกิจในกาลเป็น
ที่สุด 1 ดวง. บรรดาวิบากจิต 9 ดวงเหล่านั้น รูปาวจรวิบากจิต มีวัตถุและ
อารมณ์แน่นอน มีฐานะและกิจไม่แน่นอน วิบากจิตนอกนี้ไม่มีวัตถุ (อรูป)
มีอารมณ์แน่นอน มีฐานะและกิจไม่แน่นอนเป็นไป.
วิญญาณ (เป็นวิบาก) แม้ 32 ย่อมเป็นไปเพราะสังขารเป็นปัจจัย
ในปวัตติกาล ด้วยประการฉะนี้ก่อน ในปวัตติกาลนั้น สังขารเหล่านั้น ๆ
ย่อมเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ 32 นั้น ด้วยกรรมปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย.